เตรียมตัวล่องแก่งที่หนานมดแดง

ล่องแก่งหนานมดแดง

ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง

จะต้องใส่เสื้อชูชีพ และหมวกกันน็อกตลอดเวลา

ตรวจความเรียบร้อยของอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนลงเรือ

ควรเลือกเสื้อผ้าสวมใส่แล้วกระชับ มีความคล่องตัว เนื้อเบา และแห้งง่าย

ช่วงลงแก่งอย่ายื่นอวัยวะส่วนใดๆ ออกนอกลำเรือ เพราะอาจได้รับอุบัติเหตุได้

ควรฝึกซ้อมทักษะการนั่ง และการทรงตัวในเรือ การจับไม้พาย และการพายเรือ

ในการล่องแก่ง ควรศึกษาข้อปฏิบัติการพายเรือ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของกัปตันเรือ

วิธีการช่วยเหลือตนเองเมื่อตกน้ำ

หากพลัดตกน้ำระดับปกติพยายามว่ายเข้าหาเรือ หรือว่ายเข้าหาฝั่งให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับอันตรายจากกระแสน้ำ และแก่งหิน

หากพลัดตกน้ำในแก่งหินที่ระดับน้ำลึกไม่ถึงเอวให้พยายามยืนขึ้น เพื่อให้ชูชีพพ้นจากผิวน้ำและหาที่ยึดเกาะหรือเดินเข้าหาฝั่ง อย่าปล่อยให้กระแสน้ำพัดพาไป เพราะจะทำให้ร่างกายกระแทกกับหิน

หากพลัดตกในกระแสน้ำเชี่ยว ไม่ควรเกาะเรือ ให้ว่ายน้ำออกไปจากเรือ โดยอยู่ด้านข้างของเรือและอย่าอยู่ด้านหน้าของเรือ เพราะกระแสน้ำจะพัดพาเรือไปด้วยความเร็วจะทำให้เรืออัดเราเข้ากับโขดหินหรือกิ่งไม้

หากเรือพลิกคว่ำให้หนีออกจากเรือ และอย่าอยู่ใต้ท้องเรือ เพราะเรือจะกดเราจมน้ำและซัดเราไปกระแทกกับโขดหิน

อย่างอเข่าหรือคว่ำหน้า เพราะจะทำให้ร่างกายไปกระแทกกับสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้

พยายามลอยตัวให้อยู่เหนือน้ำในท่านอนหงาย ยกขาสองข้างขึ้นในระดับผิวน้ำ เพื่อให้เสื้อชูชีพช่วยพยุงให้ลอย

ในขณะที่กำลังถูกกระแสน้ำพัดไปเรื่อย ๆ ให้เหยียดขาไปตามด้านที่กระแสน้ำไหล เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากการกระแทกกับหินและค่อย ๆ เตะขาในน้ำ เพื่อช่วยชะลอความเร็วของกระแสน้ำที่พัด

หากไม่มีโอกาสว่ายน้ำเข้าฝั่งก็ให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำตอนต้น พยายามตั้งสติ และหาที่ยึดเกาะเพื่อรอเรือ หรือทีมช่วยเหลือมารับ

การพายเรือคายัคในเบื้องต้น

การพายเรือไปข้างหน้า เริ่มจากการจับพายให้ส่วนนูน (กริ๊ป) ของด้ามพายให้อยู่ด้านขวามือและหันออกนอกตัวเรา เมื่อใบพายขวาจุ่มน้ำให้ใช้แขนซ้ายผลักออกไปตรงๆ ในระดับแก้มจนสุดซึ่งในขณะ เดียวกันก็ทำการบิดเอวไปตามทิศทางของพาย แล้วยกแขนขวาขึ้นพร้อมกับบิดข้อมือขวาเข้า หาตัวเรา (คล้ายกับการบิดคันเร่งของรถมอเตอร์ไซค์)ให้ใบพายด้านซ้ายตั้งฉากรับน้ำแล้วจึง ผลักแขนขวาออกไปตรงๆระดับแก้มพร้อมๆ กับการบิดเอวไปตามทิศทางของพาย แล้วสลับ จังหวะต่อไปเรื่อยๆเรือคายัคก็จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

การพายเรือถอยหลัง ในการพายถอยหลังนั้นเราต้องคอยระวังหลัง โดยการชำเลืองผ่านหัวไหล่มองไปข้าง หลังว่ามีอะไรกีดขวางอยู่หรือเปล่า แล้วเริ่มจากการจุ่มพายด้านใดด้านหนึ่งไปข้างหลังพร้อม กับผลักพายไปข้างหน้าแล้วทำสลับซ้าย-ขวาให้เป็นจังหวะต่อเนื่อง โดยใช้การเคลื่อนไหวของ ลำตัวและเอวเป็นหลัก

การพายเลี้ยวซ้าย ในกรณีที่ท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ให้มือซ้ายอยู่ระดับแก้ม พายขวาจุ่มน้ำแล้วผลัก แขนซ้ายไปข้างหน้า แขนขวากวาดพายมาด้านหลังจนสุดแล้วยกขึ้น โดยทำอย่างต่อเนื่อง เรือ คายัคของท่านก็จะเลี้ยวซ้ายตามต้องการ

การพายเลี้ยวขวา ลักษณะการพายคล้ายกับการพายเลี้ยวซ้าย แต่เปลี่ยนเป็นมือขวาอยู่ในระดับแก้ม พายซ้ายจุ่มน้ำแล้วผลักแขนขวาไปข้างหน้ากวาดพายซ้ายมาด้านหลังจนสุดแล้วยกขึ้น เมื่อ ทำอย่างต่อเนื่องเรือก็จะเลี้ยวขวาตามต้องการ

การเบรคเรือ ในกรณีที่พายเรือคายัคอยู่ แล้วต้องการจะเบรกหรือชะลอความเร็ว ให้จุ่มพายด้านใด ด้านหนึ่งลงน้ำพร้อมกับผลักพายไปข้างหน้าเล็กน้อย สลับซ้าย ขวา อย่างต่อเนื่อง เรือคายัค ก็จะชะลอความเร็วลง หรือหยุดทันที

การเตรียมตัวก่อนล่องแก่ง

ควรงดดื่มสุราและของมึนเมาในขณะล่องแก่งโดยเด็ดขาดเพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าหากท่านตกลงในสายน้ำเชี่ยวในขณะที่ท่านไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

การแต่งกาย ไม่ต้องหรูหรา ควรยึดความคล่องตัวเป็นหลัก เสื้อผ้าที่ใส่นั้นควรกระชับ และคล่องตัวยามที่ต้องว่ายน้ำและปีนป่ายขึ้นเรือ หรือขึ้นฝั่งเป็นบางโอกาส

การป้องกันแสงแดด ถ้าท่านกลัวแสงแดดเผาผิวอันสวยงามของท่าน ก็กรุณาใส่เสื้อแขนยาวหรือปลอกแขนกับกับกางเกงขาสั้นก็พอ

หมวก อาจจะมีความจำเป็นเหมือนกัน เพราะเป็นการยากที่จะหนีพ้นแสงแดด ซึ่งปกติก็จะมีหมวกกันน๊อคสวมใส่อยู่แล้ว แต่อาจจะบังแดดไม่หมด ซึ่งท่านควรสวมหมวกก่อนแล้วค่อยใส่หมวกกันน๊อคอีกทีหนึ่ง

เครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็น สร้อย แหวน กำไล ถอดเก็บไว้จะปลอดภัยกว่า เพราะตลอดเส้นทางของการล่องแก่งมีแต่ธรรมชาติกับการผจญภัยเท่านั้น โอกาสที่จะสูญหายระหว่างทางมีมากเมื่อเครื่องประดับนั้นหล่นลงน้ำ

การฟิตซ้อมร่างกาย ควรฟิตซ้อมร่างกายให้พร้อม เพราะการล่องแก่งกับการเดินป่านั้นก็เหนื่อยพอสมควร ซึ่งการล่องแก่งจะเมื่อยในส่วนแขน ยิ่งถ้าเจอน้ำนิ่งๆ ยิ่งต้องใช้กำลังพายมากขึ้น การฟิตซ้อมร่างกายจึงถือว่าเป็นส่วนสำคัญมากอีกเหมือนกัน

รองเท้า แนะนำให้ใช้รองเท้าที่เบา และแห้งง่ายๆเป็นหลัก แต่ต้องไม่ใช่รองเท้าแตะ เพราะโอกาสที่จะหลุดลอยกับไปกับสายน้ำมีมาก ควรจะเป็นรองเท้าที่มีสายรัดส้นเท้า เพื่อความแน่นหนาและคล่องตัว